วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553

ประวัติชาติภูมิ

ประวัติชาติภูมิ
เกิดที่อำเภอเมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด มีพี่น้องร่วมมารดาสองคนเป็นหญิงหนึ่งคนอาจารย์เป็นคนสุดท้องเมื่อครั้งในวัยเด็กสภาพแวดล้อมแถวนั้นมีอาชีพทำนากันเกือบทั้งหมู่บ้าน ในอำเภอสมัยก่อนเป็นแค่ตำบลแล้วจึงกลายมาเป็นกิ่งอำเภอปัจจุบันเป็นอำเภอแล้ว ในสมัยก่อนยังไม่ค่อยเจริญมี โจร นักเลง อยู่เยอะเพราะอยู่ห่างไกลจากตำรวจ คนสมัยก่อนจึงมีวิชาอาคมรอบตัว ไม่ว่าจะเป็น เพชรหลีก แคล้วคลาด จากภยันอันตรายทั้งปวง คงกระพันชาตรี มหาเสน่ห์ มหานิยมคนชมชอบ
หลวงปู่สิงค์ คมฺภีโร วัดศรีสุข จ.มหาสารคาม หลวงพ่อปรีชา สุเมโธ วัดหนองไห จ.กาฬสินธุ์
ซึ่งเมื่ออาจารย์ยังเยาว์วัยอยู่ก็ได้ใกล้ชิดกับคุณตาแท้ๆ (พ่อใหญ่กลม) ซึ่งอาจารย์มีศักดิ๊เป็นหลานแท้ๆของตากลม (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) ตากลมมีเมีย 12 คน มีลูกเยอะเหมือนกันคนสุดท้ายที่นับได้คือยายปาน (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) มารดาอาจารย์เป็นบุตรคนแรกจากทั้งหมดแปดคน ซึ่งไม่แน่จริงคงไม่มีเยอะขนาดนนี้แน่นอน คุณตามีนิสัยใจคอนักเลง สมัยก่อนคุณตาเป็นเพื่อนกับผู้ใหญ่บ้านคอยคุมหมู่บ้านช่วยกันดูแลให้เกิดความสงบสุข เมื่อครั้งมีบุญประจำบ้านหรือบ้านใกล้เคียง ตาก็จะคอยควบคุมความสงบ เรียบร้อย มีเหตุการณ์หนึ่งซึ่งได้โจทย์ขานมาถึงปัจจุบัน คือ เรื่องความหนังเหนียวของตา หรือว่าอาจจะเป็นเพราะยังไม่ถึงคราวตายก็เป็นได้ ครั้งนั้นหมู่บ้านใกล้เคียงมีงานบุญบั้งไฟ ตาและลูกบ้านก็ได้ไปเที่ยวในงาน (ตอนนั้นตายังวัยกลางคน) ครั้งนั้นก็มีลูกน้องไปด้วยเยอะ (ลูกน้องบางคนก็ยังมีชีวิตอยู่)

อาจารย์ ธรรมฝั้น จังหวัดเลย
ได้มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นคือลูกน้องของตาได้ไปมีเรื่องกับเจ้าถิ่นเข้าถึงเกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้น ตาเห็นจึงได้เข้าไปช่วยลูกน้องพร้อมกับบอกให้วิ่งหนีไปก่อนเพราะเจ้าถิ่นเยอะจริงๆ ลูกน้องตาจึงวิ่งลัดทุ่งนาหนีไปก่อน และมีตาวิ่งตามหลังมาพร้อมกับเจ้าถิ่นวิ่งตามมาติดๆประมาณ 20-30 คน ตามาวิ่งสะดุดคันนาล้มลงเจ้าถิ่นมาจึงได้โอกาศ ทั้งไม้ไผ่ ทั้งขวด ทั้งมือเปล่า ทั้งเท่ารุมตีตา ตาได้แต่นอนนิ่งให้เขาตี คิดว่าเจอขนาดหนักอย่างนี้คงไม่รอดแน่ขวดแตกกระจาย ไม้ไผ่แตกกระจาย เมื่อเจ้าถิ่นรุมตีจนหนำใจแล้วจึงหยุดพร้อมกับตำรวจบอกให้หยุด ทุกคนนิ่งถอยออกมาตำรวจตกใจมากเพราะดูจากสภาพแล้วไม่น่ารอด ตาค่อยขยับตัวและปัดเศษแก้วเศษฝุ่นออกจากตัว ไม่มีเลือดแม้แต่หยดเดียวมีแต่เพียงรอยช้ำบอน และรอยเสื้อที่ขาดกระจุยเท่านั้น และต่างคนก็ต่างไปไม่มีใครเอาเรื่องกันตามประสานักเลงสมัยก่อน เมื่อตา กับลูกน้องมาถึงบ้านก็ให้ยายหาสมุนไพรมาต้มน้ำให้อาบก็หายเป็นปกติ ชาวบ้านก็ล่ำลือว่าตามีวิชาไก่จิก อึ่ง ยิ่งตียิ่งพอง เหมือนเวลาอึ่งโดนไก่จิงตัวจะพองทำให้รอดมาได้ ทำให้อาจารย์เมื่อครั้งเด็กเกิดความ ศรัทธาอยากเก่งเหมือนตาอยากมีวิชาอาคมและข้อจำกัดของวิชาตาและตาเห็นว่าเป็นเด็กจึงไม่ค่อยอยาก พูดเรื่องราวให้ฟัง แต่อาจารย์ก็ไม่เคยท้อใจเพราะสักวันหนึ่งตาคงไม่ลืมหลานแน่เพราะตารักและห่วงหลาน คนนี้มากจนกระทั่งอาจารย์ต้องออกจากบ้านมาเรียนหนังสือที่ต่างจังหวัดตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 15 ด้วยซ้ำ แต่ใจก็ยังคิดถึงเรื่องวิชาอาคมชอบสวดมนต์ ชอบศึกษาอักระขอมธรรมตัวยันต์ อยู่อย่างเงียบเสมอจนมา วันหนึ่งตาได้เสียชีวิตลงสร้างความเศร้าเสียใจให้อาจารย์ยิ่งนัก อีกอย่างวิชาก็ยังไม่ได้แต่ก็คิดว่าตาคง เก็บไว้กับใครคนหนึ่งแน่นอน แต่อาจารย์ก็ได้รับการปฎิเสธจากทุกคนที่ใกล้ชิด ในระยะเวลาต่อมาเข้าสู่ วัยรุ่นซึ่งเป็นวัยที่เริ่มวิชาการณ์ใจลึกๆก็ยังนึกถึงเรื่องวิชาอาคมอยู่ ก็ได้มีโอกาศไปกราบหลวงปู่สิงห์ คฺมภีโร และพระอาจารย์เขียว สุเมโธ จึงได้รู้ลึกถึงบารมีธรรมที่หลวงปู่ได้สงเคราะห์ญาติโยม จึงคิดอยู่ เสมอว่าถ้าเรามีวิชาไว้คอยช่วยเหลือญาติพี่น้องก็คงดี ประกอบกับใจที่ฝักใฝ่มาในทางนี้แล้วถ้าอยาก บวชพ่อแม่พี่น้องก็คงไม่อยากให้บวช ถ้าอย่างนั้นถึงเราจะเป็นโยมแต่ก็สามารถที่จะดีได้ขอแค่ใจเราเที่ยง แท้

ในครั้งนั้นจึงฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่สิงห์ คมฺภีโร หลวงปู่ก็ไม่ได้ขัดแต่ก็ยังไม่ถึงเวลาหลวงปู่แนะนำให้ ไปหาอาจารย์ธรรมฝั้นก่อนเพราะเป็นอาจารย์ใหญ่อีกคนหนึ่งที่มีชีวิตอยู่จึงแล้วค่อยกลับมาเรียนกับหลวง ปู่ตามความเหมาะสม อาจารย์ก็ไม่รอช้าพร้อมกราบลาหลวงปู่ไปบอกความประสงค์หลวงปู่จากนั้นก็มุ่งหน้า ไปศึกษาร่ำเรียนธรรมกับอาจารย์ใหญ่ที่หลวงปู่แนะนำแม้จะยากเย็นเพียงใดอาจารย์ก็ไม่เคยท้อขอแต่ได้ เรียนวิชาสายธรรมอาคมเพื่อติดตัวไว้สงเคราะห์ญาติพี่น้องก็สุขใจยิ่งกระทั่งบางครั้งยอมขาดเรียนสาย วิชาการบ้างก็ตามในการเดินทางใจก็ระทึกคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะเป็นอย่างไรอาจารยืจะรับเราเป็นศิษยืหรือไม่คิดอยู่ร้อย แปดพันเก้า ส่วนลึกๆของจิตก็อธิฐานว่าถ้ามีบุญวาสนามาถึงให้พี่น้องได้อาศัยก็ขอให้เรียนวิชาสำเร็จ ให้บรรลุแต่สิ่งดีงามด้วยเทอญ เมื่อเข้าไปถึงสำนักอาจารย์ใหญ่ก็ได้เข้าไปกราบฝากตัวเป็นศิษย์กับ อาจารย์ ตอนนั้นอาจารย์สุขใจยิ่งที่ได้เรียนทั้งวิชาสายวิชาการและวิชาสายอาคม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น